โปรโมทเว็บไซต์คุณกับแอดยิ้มวันนี้ กระจายโฆษณาของคุณ สู่เว็บไซต์คุณภาพ

บทความล่าสุด

บัตรเครดิต สินเชื่อ ภาษี ธุรกิจ การลงทุน หุ้น ทองคำ การเงิน บัญชี

วันพุธที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2553

13 วิธีเปิดมุมมองใหม่ ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ

13 วิธีเปิดมุมมองใหม่ ก่อนเริ่มต้นทำธุรกิจ

การมีธุรกิจเป็นของตัวเองเป็นสิ่งที่หลายคนมักใฝ่ฝันให้เกิดขึ้นจริงในชีวิต แต่น้อยคนนักที่จะรู้ถึงความหมายที่แท้จริงของคำพูดที่ว่า “เป็นเจ้านายของตัวคุณเอง” เป็นไปได้ว่าพอทำธุรกิจไปพักหนึ่ง คุณบ่นว่ารู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับงาน ที่ทำเพราะแต่ละวันต้องเผชิญหน้ากับปัญหาต่าง มากมาย เช่นผู้จัดการคนใหม่ของบริษัททำให้คุณปวดศีรษะเล็กน้อย หรือพนักงานลางานบ่อย...
แต่อย่างว่ารู้ทั้ง รู้ว่าการเริ่มต้นทำธุรกิจมักหนีไม่พ้นปัญหาในแต่ละวันแต่เราก็อยากให้มี ชื่อปรากฏในแวดวงการทำธุรกิจอย่างการทำธุรกิจผลิตเสื้อยืดใช้ชื่อของเราและเพื่อน ตั้งเป็นชื่อแบรนด์ของตัวเองมีการมองถึงผลที่ได้จากการทำธุรกิจว่า ได้ผลตอบแทนที่ดีแถมเรายังมีชื่อเสียงอีกต่างหาก เผลอๆ อาจจะดังโดยไม่รู้ตัวก็ได้

เมื่อคิดว่าพร้อมที่ จะทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงก็ไม่ควรจะรอช้า ถึงเวลาที่เราต้องลงมือทำจริงเสียทีคุณต้องทุ่มและศึกษามากหน่อย หากคิดจะทำธุรกิจให้ประสบ ความสำเร็จอย่ามองด้านบวกอย่างเดียว พยายามมองอะไรให้รอบด้านต่อไปนี้เป็นวิธีการปรับมุมมองที่คุณสามารถนำไปใช้ ได้จริง

1.ศึกษาความรู้ในภาคอุตสาหกรรมนั้นให้เพียงพอเสียก่อน
กรณีที่จะทำธุรกิจร้านอาหารก็ต้องคำนึงถึงเรื่องการสั่งซื้อเครื่องปรุงอาหารมาที่ร้านด้วยลงมือวิจัยหาข้อมูลเรื่องการตลาดและ รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายการทำธุรกิจของเราเป็นใคร เรียนรู้เรื่องการแข่งขันพยายามให้แน่ใจว่าความคิดของเรา ไม่เป็นรองใครอย่าลืมมองในแง่ความยั่งยืนของการทำธุรกิจในอนาคตประกอบกัน ด้วย

2.ให้ความสำคัญกับความซับซ้อนของเอกสารการทำธุรกิจ
ไม่เห็นยากเลยคุยกับ ทนายความก่อนที่คุณจะตีพิมพ์ เอกสารทางธุรกิจหรือเตรียมเผยแพร่ในเว็บไซต์ ทำเอกสารทางกฎหมายให้ครบสมบูรณ์ต้องแน่ใจชื่อบริษัทที่ตั้งขึ้นเป็นชื่อที่ เราถูกใจและปรากฏอยู่ในเอกสารทางกฎหมายแล้ว

3.รับมือกับความเสี่ยงต่างๆ
ต้องมีเป้าหมายที่ชัดเจนพยายามลดความเสี่ยงพยายามดึงดูดใจให้นักลงทุนเกิดความเชื่อมั่นกับบริษัทของเรา เพื่อปูทางความน่าเชื่อถือกับบริษัทของเราในอนาคต

4.เตรียมรับมือกับอุปสรรค
การทำธุรกิจส่วนตัวย่อมต้องพบกับอุปสรรคหลายอย่าง เช่น เงินหมุนเวียนในองค์กรหรือในกรณีที่กู้เงินจากธนาคารมาทำธุรกิจก็ต้องรู้ว่าการผ่อนชำระเป็นอย่างไรรายได้แต่ละเดือนจะเพียงพอหรือเปล่า

5.ไม่ต้องรีบร้อน
อย่าพยายามให้บริษัท เติบโตเร็วเกินไปเติบโตช้าๆ แต่เป็นไปอย่างมั่นใจดีกว่าเมื่อทำไปได้สักพักหนึ่งกิจการเริ่ม ดีขึ้นก็เลยเกิดความคิดว่าจะสร้างออฟฟิศแห่งใหม่ดีหรือไม่ในจุดนี้เราก็ต้อง คำนึงถึงงบประมาณที่ต้องใช้จ่ายว่าพอไหว หรือเปล่าหรือต้องกู้เงินมาขยายกิจการ

6.เปิดมุมมองเรื่องหุ้นส่วน
หลายคนร่วมทุนกับ เพื่อนเปิดธุรกิจส่วนตัวเราต้อง แบ่งแยกระหว่างสองเรื่องนี้ เพื่อนส่วนเพื่อน งานส่วนงานการทำธุรกิจร่วมกันนั้นต้องมีการแบ่งแยกระหว่างงานและเพื่อน เช่นเรื่องส่วนแบ่งทางธุรกิจหรือผลตอบแทนในแต่ละเดือนที่อาจจะต้องได้สัด ส่วนเท่ากันหรือในธุรกิจบางอย่างอาจจะมีการได้รับส่วนแบ่งในสัดส่วนที่ต่าง กันขึ้นอยู่กับการตกลงกันในครั้งแรก หรือความเหมาะสมประการอื่นๆ

7.มีมนุษยสัมพันธ์
เดิมคุณเป็นคนปิดตัว เองถึงเวลาแล้วที่ต้องยิ้มแย้มแจ่มใส สร้างสัมพันธภาพเพราะช่วยเกื้อหนุนให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปมนุษยสัมพันธ์เป็น สิ่งที่มีความสำคัญช่วยให้การทำธุรกิจราบรื่น

8.ทุกปัญหามีทางแก้ไข
เมื่อหันมาเปิดกิจการ ส่วนตัวแล้วก็ต้องทำใจคิดเสียว่า เดินมาถึงครึ่งทางแล้วจะท้อถอยได้อย่างไรกันเมื่อพบกับปัญหาต่างๆ เช่น บริหารงานไม่ได้ดั่งใจ หาพนักงานที่ไว้ใจได้ยากเหลือเกิน ลูกค้าบ่นเรื่องอาหารในร้านอาหารประจำตัวอย่างปัญหาที่พูดถึงนี้มีทางออก และสามารถหาทางแก้ไข ได้เสมอ

9.ปรับอารมณ์ให้เป็นปกติ
คนหนุ่มสาวมักเป็นคน ใจร้อนบางครั้งเมื่อเจอปัญหาก็ ปรับอารมณ์ของตัวเองไม่ทันคุณต้องใช้วิธีเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าลูกค้าตำหนิเรื่องอาหารในร้านหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้นำ สิ่งที่ลูกค้าพูด คิดดูว่าเป็นจริงหรือเปล่าถ้าเป็นจริงเราก็ต้องแก้ไข มิใช่พอได้ยินสิ่งที่ลูกค้าพูด ก็เกิดอารมณ์โกรธ

10.เรียนรู้การควบคุมลูกน้อง
อย่าให้ลูกน้องที่ทำงานด้วยรู้สึก “เกรง” มากเกินไป ช่องว่างของความสัมพันธ์ระหว่างคุณกับลูกน้องควรอยู่ในกรอบของความพอดี สามารถปรับตัวและรักษาระดับระหว่างกันได้
11.รับมือกับการก่อกวน
เป็นเรื่องธรรมดาที่ การทำธุรกิจย่อมต้องมีเรื่องการแข่งขันเข้ามาเกี่ยวข้อง ยิ่งถ้าหากเปิดร้านประเภทเดียวกันตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกันความรู้สึก เครียดเรื่องการแข่งขันซึมซับในใจอย่างที่เจ้าของกิจการไม่รู้ตัวเราจึงอาจ เห็นการตัดราคากัน ซึ่งๆ หน้าอาจทำให้เกิดการเขม่นทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัวที่พูดเรื่องนี้ไม่ได้ ต้องการให้คุณกลัว หรือลังเลในการทำธุรกิจส่วนตัวแต่ให้ถือว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่อาจจะเกิด ขึ้นได้กับเรา

12.ทำธุรกิจที่ตัวเองถนัดดีกว่า
ข้อนี้สำคัญไม่แพ้ข้อ อื่นเช่น คุณรักการจัดดอกไม้ ก็เลยเปิดร้านดอกไม้ หรือเป็นคนชอบดื่มกาแฟรู้สึกดีที่ อยู่ใกล้ชิดกับความหอมของกาแฟ เลยตัดสินใจกับเพื่อนๆขอเปิดร้านกาแฟ เราชอบและถนัดสิ่งไหน ทำให้เราทำสิ่งนั้น ได้ดี

13.พร้อมที่จะเหนื่อย
ถ้าคิดล่วงหน้าไปก่อน ว่าทำธุรกิจส่วนตัวเดี๋ยวก็รู้สึกเหนื่อย หรือเครียดหรอกเป็นการมองโลกในแง่ลบเกินไป เมื่อคิดจะทำธุรกิจส่วนตัวก็ต้องเข้าใจว่าช่วงแรกๆ อาจ เหนื่อยหน่อย แต่พออะไรเข้าที่เข้าทางแล้ว เราอาจเหนื่อยน้อยลง

ลองเปิดหลายๆมุมมอง ทางความคิดของคุณ ก่อนตัดสินใจว่าจะเริ่มต้นกิจการส่วนตัวอะไรสักอย่างหนึ่งเมื่อตัดสินใจทำ แล้วต้องเดินหน้ารับมือกับปัญหาที่เกิดขึ้นคิดเสียว่าการแก้ปัญหาทำให้เรา แกร่งขึ้น


ที่มา : โพสต์ทูเดย์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น